จุดประสงค์รายวิชา
1. ผู้เรียนมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ต่างๆ
2. ผู้เรียนเข้าใจหลักการเขียนโปรแกรม
3. ผู้เรียนสามารถเขียนโปรแกรมภาษาซีได้อย่างเป็นระบบและมีขั้นตอน
4 . ผู้เรียนสามารถเขียนโปรแกรมประยุกต์ตามการใช้งานต่างๆ ได้
คำอธิบายรายวิชา
คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษาซี หลักการเขียนโปรแกรม องค์ประกอบของภาษาซี คำสั่งในการรับและแสดงผลข้อมูล คำสั่งควบคุมในการทำงาน ตัวแปร Array ฟังก์ชัน (Function) พอยน์เตอร์ (Pointer) การจัดแฟ้มข้อมูล ข้อมูลชนิดโครงสร้าง และการประยุกต์การเขียนโปรแกรม
รู้จักกับภาษาคอมพิวเตอร์
ก่อนที่จะเขียนโปรแกรมภาษา C ขึ้นมานั้น สิ่งแรกที่ควรทำความเข้าใจก็คือ รายละเอียดทั้งหมดของภาษา C เพื่อเข้าใจถึงที่มา ความสามารถ รวมถึงลักษณะการทำงานโดยรวมของภาษา เมื่อศึกษาถึงเรื่องใดก็ตาม การทำความเข้าใจถึงรากฐานของเรื่องนั้นย่อมจะทำให้เรามีพื้นฐานพร้อมที่จะเรียนรู้เนื้อหาในรายละเอียดต่อไปได้เป็นอย่างดี
รู้จักกับภาษา C
ภาษา C เป็นภาษาที่เก่าแก่ถือกำเนิดมายาวนาน โดยแต่เดิมนั้นภาษา C ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เป็นภาษาสำหรับการสร้างระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (Unix) เนื่องจากในขณะนั้นระบบปฏิบัติการยูนิกซ์เขียนด้วยภาษาแอสเซมบลิ (Assembly) ซึ่งเป็นภาษาที่ยึดติดกับฮาร์ดแวร์ของเครื่อง ดังนั้น การที่จะย้ายระบบปฏิบัติการไปใช้กับเครื่องอื่นจึงเป็นเรื่องที่ลำบากมาก ซึ่งนับเป็นข้อเสียที่สำคัญของภาษาแอสเซมบลิ
ดังนั้น ภาษา C ซึ่งเป็นภาษาที่ไม่ยึดติดกับฮาร์ดแวร์จึงถูกพัฒนาขึ้นมา ในปัจจุบัน C ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่งานสร้างระบบปฏิบัติการเท่านั้น แต่สามารถนำไปใช้สร้างโปรแกรามเพื่องานในทุกประเภทยกตัวอย่างเช่น งานเกี่ยวกับการคำนวณ ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ชนิดต่าง ๆ การจัดการฐานข้อมูล หรือสร้างโปรแกรมต่าง ๆ เป็นต้น
ประวัติของภาษา C
ภาษา C คิดค้นขึ้นมาเป็นครั้งแรกโดย เดนนิส ริทชี่ (Dennis Ritchie) ที่ห้องแล็บเบล (Bell Labs) ในปี ค.ศ. 1972 โดยได้แนวคิดมาจากภาษา BCPL ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย มาร์ติน ริชาร์ด (Martin Richards) และภาษา B ที่เขียนขึ้นโดย เคน ทอมพ์สัน (Ken Thompson) เพื่อนำมาพัฒนาต่อจนได้ภาษาใหม่ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1978 ภาษา C จึงได้รับการเผยแพร่อย่างเป็นทางการโดยเคอร์นิกแฮน (Kernighan) และเดนนิส ริทชี่
จุดเด่นของภาษา C
ภาษา C ได้รับการยอมรับและใช้งานกันอย่างกว้างขวาง สาเหตุน่าจะมาจากเหตุผลดังต่อไปนี้
· ถูกกำหนดเป็นมาตรฐานสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกรุ่น (IBM, PC, Macintosh และเครื่องประกอบเอง) และระบบปฏิบัติการทุกชนิด (Windows, Unix, Linux, …) ทำให้โครงสร้างทางภาษา ฟังก์ชัน และไลบรารีต่าง ๆ สามารถนำไปใช้งานระหว่างเครื่องแต่ละรุ่นและระบบปฏิบัติการแต่ละชนิดได้
· ในปัจจุบันมีการพัฒนาตัวแปลภาษา C ขึ้นมาใช้กับเครื่องทุกรุ่นและระบบปฏิบัติการทุกชนิด ดังนั้นไม่ว่าเราจะใช้เครื่องรุ่นใด และใช้แบบปฏิบัติการชนิดใดก็ตาม สามารถเขียนโปรแกรมภาษา C ได้แน่นอน
· ภาษา C มีโครงสร้างทางภาษาที่ดี และเครื่องหมายสำหรับดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ตรรกศาสตร์ หรือการเปรียบเทียบ ล้วนมีประสิทธิภาพการทำงานสูง
· โดดเด่นเรื่องการติดต่อและควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ ถือเป็นจุดเด่นของภาษา C ที่ทำได้ดีเหนือกว่าภาษาอื่น ๆ มาก เพราะสามารถเขียนคำสั่งได้ง่าย กลายเป็นโปรแกรมที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด ทำให้วิศวกรเลือกใช้ภาษานี้มากที่สุด
· มีฟังก์ชันสำเร็จสำหรับงานประเภทต่าง ๆ ให้เลือกใช้มากมาย ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการเขียนคำสั่ง นอกจากนี้ถ้าฟังก์ชันที่ภาษา C เตรียมไว้ให้ใช้งานได้ไม่ตรงตามต้องการทั้งหมด เราสามารถเขียนคำสั่งเพิ่มเติมลงไปได้ด้วย
การสั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วยภาษาโปรแกรม
การที่จะสื่อสารหรือบอกความต้องการของเรากับใครสักคน แน่นอนที่สุดภาษาที่ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกันจะถูกนำมาใช้เป็นสื่อกลาง การสื่อสารหรือสั่งงานกับคอมพิวเตอร์ก็เช่นเดียวกัน ภาษาที่จะนำมาใช้เป็นสื่อกลางก็คือ ภาษาที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ ซึ่งเรียกกันว่า ภาษาเครื่อง (Machine Language)
ภาษาเครื่องจะอยู่ในรูปแบบของรหัสเลขฐานสอง (Binary Code) ซึ่งประกอบด้วยตัวเลขอยู่เพียงแค่ 2 ตัวนั่นคือ 0 และ 1 อธิบายได้ว่าเป็นภาษาที่ประกอบด้วยตัวเลข 0 และ 1 เรียงลำดับและต่อกันเป็นความหมายที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ เมื่อลองนึกภาพตามจะพบว่าเป็นเรื่องยากที่มนุษย์จะสามารถเข้าใจในภาษานั้นได้
ต่อมาจึงมีการพัฒนาภาษาสำหรับสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ที่มนุษย์เข้าใจ โดยใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษมากำหนดเป็นรูปแบบคำสั่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นคำที่มีความหมายในภาษาอังกฤษ แต่การที่จะทำให้คอมพิวเตอร์เข้าใจภาษาที่พัฒนาขึ้นมาได้นั้น